การป้องกัน และกำจัดไรฝุ่น - Siri Allergy Guard ผ้ากันไรฝุ่น

ผ้ากันไรฝุ่น

การป้องกัน และกำจัดไรฝุ่น

ทั่วโลกได้ยอมรับกันแล้วว่า ไรฝุ่น นั้นเป็นสารก่อภูมิแพ้ภายในบ้านที่สำคัญ อีกทั้งยังเป็นสาเหตุหลักในการก่อให้เกิด "โรคภูมิแพ้" อันได้แก่ โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ หรือที่เรียกกันว่า โรคแพ้อากาศ (Allergic rhinitis) และ โรคหืด (Asthma)มีรายงานจำนวนมากมายจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกว่า  โรคภูมิแพ้ที่มีสาเหตุหลักมาจากไรฝุ่น มีความชุกของโรคเพิ่มขึ้นทุกๆปี จนเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญ  การรักษาโรคแต่เพียงอย่างเดียวนั้น โดยไม่ใส่ใจในการควบคุมสภาวะแวดล้อมของผู้ป่วยทำให้การรักษาโรคไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร 

.

.

แพทย์ได้แนะนำให้ผู้ป่วยตระหนักและเห็นความสำคัญของการป้องกัน และกำจัดไรฝุ่นที่บ้าน ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ป่วยมีอาการทุเลาลง และอาการไม่กำเริบบ่อย ซึ่งการหลีกเลี่ยงหรือลดการสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ไรฝุ่นได้ จะทำให้ผู้ป่วยดีขึ้น และการรักษาโรคได้ผลดี
.

.
อันดับแรกเราต้องทราบก่อนว่า เรากำลังจะต่อสู้อยู่กับอะไร  อยู่ที่ไหน  ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นที่ต้องรู้จักนิสัยและชีวิตความเป็นอยู่ของไรฝุ่น หรือภาษาทางการแพทย์เราเรียกว่า ชีววิทยาของไรฝุ่น นั่นเอง เมื่อทราบว่าตัวไรฝุ่น ไม่ชอบอะไร  เราก็ทำอย่างนั้น ไรฝุ่นจะอยู่ไม่ได้ แต่เห็นตัวเล็กอย่างนี้ ก่อเรื่องใหญ่กำจัดไม่ได้ง่ายๆอย่างที่คิด  หลักการกำจัดไรฝุ่นมีอยู่ 3 ข้อ แต่แตกออกเป็นวิธีการต่างๆได้อย่างมากมาย สามารถเลือกใช้ได้ตามสะดวก  คือ

1) ทำให้จำนวนตัวไรฝุ่นลดลง  อาจจะกำจัดโดยการฆ่า หรือ ทำให้สภาพแวดล้อมไม่เหมาะแก่การแพร่พันธุ์ 

2) ทำลายสารก่อภูมิแพ้ไรฝุ่น  หรืออีกนัยหนึ่งคือทำมูลไรฝุ่นให้หมดสภาพการเป็นสารกระตุ้น

3) หาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้เราพบกัน  จะลดการสัมผัสสูดดมได้ 

จากหลักการข้างต้นสามารถคิดค้นเป็นวิธีการต่างๆได้อยางมากมาย บางวิธีฆ่าตัวไรฝุ่นได้ แต่ไม่มีผลต่อการทำลายมูลของไรฝุ่น บางวิธีได้ผลกับตัวไร แต่ไม่ปลอดภัยกับตัวคน  และบางวิธีใช้ได้ผลดีเฉพาะในห้อง lab ไม่เหมาะที่จะนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้  วิธีการที่จะกล่าวต่อไปนี้สามารถเลือกใช้ให้เหมาะกับแต่ละบ้าน แต่ละชนิดของเครื่องนอน โดยรวมแล้ว การป้องกันไรฝุ่นปัจจุบัน ยังไม่มีวิธีใดเพียงวิธีเดียวที่ได้ผล ต้องใช้หลายวิธีร่วมกัน
.
.
การใช้ความร้อน

• การรีดผ้า สามารถฆ่าตัวไรได้

• การซักด้วยน้ำร้อนที่มีอุณหภูมิ  60 oซ  นาน 30 นาที (ประมาณอุณหภูมิด้วยความรู้สึกว่ามือแตะน้ำได้ ไม่ลวกมือ)

• การใช้ความร้อนสูง 140 oซ นาน 1 ชม. ทำลายโปรตีนของสารก่อภูมิแพ้ได้ มูลไรฝุ่นหมดสภาพการเป็นสารกระตุ้นร่างกาย

• การตากแดด นาน 5 ชม. ยับยั้งการเจริญของไข่ไรฝุ่นได้

การใช้ความเย็น

• ไรฝุ่นเติบโตได้ช้า ในอุณหภูมิตู้เย็น (4-10 oซ-ช่องธรรมดา ) และตายเมื่อเก็บในช่อง freeze (-10 oซ )

• การใช้ไนโตรเจนเหลว(-196o ซ) ฆ่าไรฝุ่นได้ ใช้ได้ผลดีใน lab condition แต่ไม่เหมาะกับการนำมาใช้งานในชีวิตประจำวัน

การซักล้าง

• การซักผ้า จะช่วยขจัดสารก่อภูมิแพ้ได้ดี เพราะมูลไรเป็นสารละลายน้ำได้ง่าย

การคลุมด้วยวัสดุป้องกันไรฝุ่น (ผ้ากันไรฝุ่น)

• วิธีการนี้เป็นวิธีการหลีกเลี่ยง เพื่อลดการสัมผัสกับไรฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ การใช้ "ผ้ากันไรฝุ่น" ที่มีประสิทธิภาพ เช่น  พลาสติก หรือ ผ้าทอแน่นที่มีรูห่างของผ้าเล็กกว่ามูลไรฝุ่น (10 ไมโครเมตร) หุ้มที่นอน/หมอน เอาไว้ทำให้สามารถกั้นมูลไรฝุ่นไม่ให้ฟุ้งออกจากเครื่องนอนมาสัมผัสกับเรา  มีผลทำให้ลดการสูดดมลงได้  การใช้ผ้ากันไรฝุ่นไม่ได้ช่วยลดปริมาณตัวไรฝุ่นแต่อย่างใด

เครื่องดูดฝุ่น

• ควรใช้เครื่องที่มีถุงเก็บกัก 2 ชั้น หรือถุงอย่างหนา เพื่อป้องกันการฟุ้งกระจายของสารก่อภูมิแพ้ไรฝุ่น

• มี HEPA filter

• ช่วยลดสารก่อภูมิแพ้ แต่ไม่ลดปริมาณไรฝุ่น ระหว่างใช้งานต้องสวมผ้าปิดจมูก

เครื่องกรองอากาศ

• มีประโยชน์ในการดักจับสารก่อภูมิแพ้ที่ลอยในอากาศ เช่น ละอองเกสรพืช ดังนั้นจึงจะมีประโยชน์ กับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้เกสรพืช มากกว่าผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ไรฝุ่น อย่างไรก็ดีไม่มีข้อเสียหายในการใช้ ส่วนข้อดีว่ามีประสิทธิภาพในการลดสารก่อภูมิแพ้ไรฝุ่นได้นั้น ยังไม่มีรายงานชัดเจน

การใช้ สารเคมี

• ยาฆ่าไร (acaricide) นำมาใช้งานในรูปแบบต่างๆ เช่น  ผงฆ่าไรในพรม (powder)  foam หรือ spray สำหรับฉีด addictive solution ผสมน้ำใช้ซักผ้า  ผ้าเคลือบสาร (impregnated cover) ด้วยสารกลุ่มไพรมิทิน

การใช้สารจากธรรมชาติ

• ปัจจุบันสังคมได้ถามหาสารธรรมชาติเพื่อนำมาใช้ทดแทนสารเคมีกันมากขึ้น เพราะตระหนักถึงสุขภาพ และความปลอดภัยในระยะยาว มีรายงานวิจัยทั้งจากต่างประเทศและประเทศไทย เกี่ยวกับการนำพืชสมุนไพรมาใช้ในการกำจัดไรฝุ่น  เช่น  tannin เป็นสารทำลายโปรตีนสารก่อภูมิแพ้  (denaturants),  น้ำมันยูคาลิปตัส,  tea  มักใช้ผสมน้ำสำหรับซักผ้า  นอกจากนี้ยังมีการนำสารสมุนไพรมาเคลือบผ้า เช่น สารสกัดจากดอก Chrysanthemums

• ศูนย์บริการและวิจัยไรฝุ่นศิริราชได้คิดค้นน้ำยาสกัดสมุนไพรฆ่าไรซึ่งได้ผลดี ฆ่าไรได้ 100% และมีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ด้วย ปัจจุบันนำมาบรรจุในรูป anti-mite herbal spray

CREDIT : รศ. วรรณะ มหากิตติคุณ

============

***สำหรับท่านที่สนใจผลิตภัณฑ์ ผ้ากันไรฝุ่น

ผลงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยมหิดล

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่

CLICK >> ผ้ากันไรฝุ่น